การจัดการศึกษา การเรียนรู้และพัฒนา กระบวนการ คุณธรรม การบูรณาการความรู้และทักษะ ความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับสังคม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศาสนา ศิลป วัฒนธรรม การกีฬา ภูมิปัญญาไทย การประยุกต์ใช้ภูมิปัญญา การประกอบอาชีพ การดำรงชีวิต การจัดกระบวนการเรียนรู้ กิจกรรมที่สอดคล้องกับความสนใจ ความถนัดความแตกต่าง ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การเผชิญสถานการณ์ ประยุกต์ความรู้ การจัดกิจกรรม การฝึกปฏิบัติ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ บรรยากาศ สิ่งแวดล้อม วิจัย แหล่งวิทยาการ การประเมินผล หลักสูตรการศึกษา
วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2553
ทฤษฎีการเรียนรู้ (learning theory)
ทฤษฎีการเรียนรู้ (learning theory) การเรียนรู้คือกระบวนการที่ทำให้คนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ความคิด คนสามารถเรียนได้จากการได้ยินการสัมผัส การอ่าน การใช้เทคโนโลยี การเรียนรู้ของเด็กและผู้ใหญ่จะต่างกัน เด็กจะเรียนรู้ด้วยการเรียนในห้อง การซักถาม ผู้ใหญ่มักเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ที่มีอยู่ แต่การเรียนรู้จะเกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่ผู้สอนนำเสนอ โดยการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนและผู้เรียน ผู้สอนจะเป็นผู้ที่สร้างบรรยากาศทางจิตวิทยาที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ ที่จะให้เกิดขึ้นเป็นรูปแบบใดก็ได้เช่น ความเป็นกันเอง ความเข้มงวดกวดขัน หรือความไม่มีระเบียบวินัย สิ่งเหล่านี้ผู้สอนจะเป็นผู้สร้างเงื่อนไข และสถานการณ์เรียนรู้ให้กับผู้เรียน ดังนั้น ผู้สอนจะต้องพิจารณาเลือกรูปแบบการสอน รวมทั้งการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน
อ่านเพิ่ม้ติมได้ที่
วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
เพลงโรงเรียนดีประจำตำบล
เพลงโรงเรียนดีประจำตำบล สพฐ. ศธ.
เพลงโรงเรียนดีประจำตำบล
คำร้อง ทำนอง และขับร้องโดย
ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว)
วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
การใช้ ICT ในการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ
ปัจจุบันเรามักจะได้ยินคำว่า ICT กันเสมอ ในเชิงการแข่งขันคนที่มีความรู้ความสามารถเท่านั้น จึงจะสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีศักยภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ที่เราเรียกว่า ยุคสมัยของการดำรงชีวิตภายใต้การแข่งขันด้านความรู้ความสามารถ (Knowledge-based economy/society) การนำ ICT ไปใช้ในการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเรื่องที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในวงการศึกษา ทั้งนี้เนื่องจาก ICT เป็นเครื่องมือที่ได้รับการยอมรับว่ามีศักยภาพสูง กว่าเครื่องมือการสอนอื่น ๆ เราสามารถใช้ ICT เพื่อปรับปรุงคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ คำว่า “ ICT” ย่อมาจาก Information and Communication Technologies หรือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หมายถึง การรวมตัวกันของเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และเทคโนโลยีการสื่อสาร (CT) เพื่อให้เกิดการนำข้อมูลข่าวสารมาจัดเก็บอย่างเป็นระบบ หรือหมวดหมู่ เพื่อให้ทุกคนที่สนใจเข้าถึงข้อมูล และสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ตามกรอบแนวความคิดทั้ง 6 ประการ ดังกล่าว จัดเป็นองค์ประกอบเบื้องต้นที่สำคัญในสาระขอบข่ายเทคโนโลยีการศึกษา ซึ่งองค์ประกอบดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกัน และมีรายละเอียดดังนี้
นโยบายของรัฐบาล นโยบายการเร่งใช้ ICT (Information and Communication Technology) เพื่อพัฒนาการศึกษาในทุกด้านโดยเฉพาะการช่วยพัฒนา ครู อาจารย์ นักศึกษาได้เข้าถึงแหล่งความรู้และได้เรียนอย่างทัดเทียมกัน การพัฒนาระบบบริหารจัดการให้ฉับไว มีประสิทธิภาพสูงสุด การจัดเครื่องมืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และการเชื่อมโยงเครือข่าย จึงเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล
ระบบบริหารจัดการด้าน ICT ในการบริหารและบริการทางด้าน ICT มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ มีข้อมูลทะเบียนนักเรียน มีการเชื่อมโยงและรวบรวมข้อมูล ซึ่งสามารถติดตามความก้าวหน้า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีระบบบริหารงานบุคคล ระบบงานสารบรรณ ระบบห้องสมุด ซึ่งจะเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการค้นคว้าที่กว้างขวางขึ้น
การออกแบบและผลิตสื่อ มุ่งส่งเสริมพัฒนาครู อาจารย์ ให้สามารถออกแบบและผลิตสื่อด้าน ICT เพื่อช่วยให้การสอนมีความน่าสนใจ สนุกสนาน ค้นคว้าต่อยอด ความรู้ประสบการณ์จากที่มีอยู่เดิม
ทฤษฎีการเรียนรู้ (Constructionism) มุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองกับเครือข่ายการเรียนรู้โดยนำกระบวนการเรียนรู้มาจัดการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ เพราะว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากการเรียนรู้ในอดีต มาเป็นการเรียนรู้แบบตลอดชีวิต
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เป็นเรื่องของการกำหนดวิธีการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ การเตรียมผู้เรียนให้พร้อมต่อการใช้เทคโนโลยีฯ เพื่อเป็นการใช้เทคนิคต่าง ๆ ตามความเหมาะสมของเทคโนโลยี
การประเมินผลการเรียนรู้ เป็นเรื่องสำคัญขององค์ประกอบดังกล่าว เนื่องจากเป็นการจะทำให้ทราบแนวทางในการพิจารณาเลือกตัดสินใจดำเนินงาน โดยประเมินจากผลงานหรือตามสภาพความเป็นจริงจากกระบวนการเรียนรู้
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน สิ่งสำคัญที่คุณครูจะทำให้เด็ก ๆ เรียนรู้ได้เข้าใจเป็นอย่างดี ก็คือเครื่องมือที่เรียกว่า “สื่อการเรียนรู้” และสื่อการเรียนรู้ที่ดีที่สุดก็คือ สิ่งที่จะสื่อให้เด็กเรียนรู้ในเรื่องนั้น ๆ ได้ดีที่สุด ซึ่งมีมากมายหลากหลาย การเรียนรู้ในบางเรื่องแค่คุณครูบอกเล่าหรือแสดงท่าทาง เด็กก็เข้าใจได้ และในบางเรื่องต้องใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ ฯลฯ เข้ามาช่วย การพิจารณาใช้สื่อฯ ไม่ควรยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง สื่อฯทุกชนิดมีคุณค่าและมีความสำคัญที่แตกต่าง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่จะนำมาใช้
การจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
หมายถึง การจัดการเรียนการสอนโดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เรียนเป็นประการสำคัญ ใครก็ตามที่เป็นคนสำคัญของเรา เราย่อมมีความรักความปรารถนาดี ให้แก่เขา จะคิดจะทำอะไร ก็มักจะคิดถึงเขาก่อนคนอื่น และคิดถึงประโยชน์ที่เขาควรจะได้รับ
การจัดการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง คืออะไร
แนวคิดนี้มีที่มาจากแนวคิดทางการศึกษาของ จอห์น ดิวอี้ (John Dewey) ซึ่งเป็นต้นคิดในเรื่องของ “การเรียนรู้โดยการกระทำ” หรือ “Learning by Doing” (Dewey ,1963) อันเป็นแนวคิดที่แพร่หลายและได้รับการยอมรับทั่วโลกมานานแล้ว การจัดการเรียนการสอนโดยให้ผู้เรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติจัดกระทำนี้ นับว่าเป็นการเปลี่ยนบทบาทในการเรียนรู้ของผู้เรียนจากการเป็น “ผู้รับ” มาเป็น “ผู้เรียน” และเปลี่ยนบทบาทของครูจาก “ผู้สอน” หรือ “ผู้ถ่ายทอดข้อมูลความรู้” มาเป็น “ผู้จัดประสบการณ์การเรียนรู้” ให้ผู้เรียน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงบทบาทนี้ เท่ากับเป็นการเปลี่ยนจุดเน้นของการเรียนรู้ว่าอยู่ที่ผู้เรียนมากกว่าอยู่ที่ผู้สอนดังนั้นผู้เรียนจึงกลายเป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอน เพราะบทบาทในการเรียนรู้ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ตัวผู้เรียนเป็นสำคัญ
การใช้ไอซีทีในการเรียนการสอน
ในศตวรรษแห่งภูมิปัญญามีการนำเอา ICT มาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนหลายรูปแบบ เช่นการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย (Computer Assisted Instruction) การเรียนในรูปแบบอิเลคทรอนิกส์ (e-Leaning) การเรียนโดยใช้การสื่อสารทางไกล (Distance Learning) ภายใต้ความเชื่อเกี่ยวกับศักยภาพของเทคโนโลยีในปัจจุบันที่จะให้ผู้เรียนเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ที่มีอยู่มากมาย หรือในโลกแห่งความรู้ (World Knowledge) ซึ่งผู้เรียนมีความสามารถที่จะเรียนเวลาใด สถานที่ใด หรือแม้กระทั่งจะเรียนรู้กับใครก็ได้ตามความสนใจของแต่ละคน จึงเกิดความยืดหยุ่นในการเรียนรู้มากขึ้น
กิดานันท์ มลิทอง ได้กล่าวถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในการเรียนการสอนไว้ 3 ลักษณะ ดังนี้
1. การเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี เป็นการเรียนรู้ในเรื่องของเทคโนโลยี เช่น เรียนรู้ เกี่ยวกับระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ เรียนรู้ว่าคอมพิวเตอร์ใช้เพื่อการประมวลผล เก็บบันทึก ค้นคืนสารสนเทศได้อย่างไร เครื่องพิมพ์เลเซอร์และเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก มีการทำงานอย่างไร เทคโนโลยีการสื่อสารมีรูปแบบใดบ้าง ช่องทางสื่อสารมีลักษณะเป็นอย่างไรและประกอบด้วยอุปกรณ์ใดบ้าง ฯลฯ วิชาเพื่อการเรียนการสอนเกี่ยวกับเทคโนโลยีมีหลายวิชา เช่น วิชาคอมพิวเตอร์เบื้องต้น วิชาเครือข่ายดิจิทัล หรืออาจเรียนรู้จากเว็บไซต์ ที่นำเสนอเรื่องต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ด้วยตนเองในลักษณะมัลติมีเดีย
2. การเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยี เป็นการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือเพื่อการเรียนรู้ เช่น การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการประมวลผล การใช้ซอฟต์แวร์ คอมพิวเตอร์ในการสร้างบทเรียนการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการค้นคว้า การใช้ WWW เป็นสื่อในลักษณะการสอนบนเว็บ การเรียนการสอนในลักษณะอีเลิร์นนิง และการทัศนศึกษาเสมือนด้วยแหล่งเรียนรู้เสมือนจากเว็บไซต์ต่าง ๆ เป็นต้น
3. การเรียนรู้ไปใช้กับเทคโนโลยี เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี ได้แก่ การเรียนรู้ว่าขณะนี้เทคโนโลยีมีความก้าวไกลไปในลักษณะและรูปแบบใดบ้างทั้งทางด้านวัสดุ อุปกรณ์และวิธีการ เช่นซอฟต์แวร์โปรแกรมใหม่ ๆ เครื่อง tablet pc ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ไร้สายที่ผู้ใช้สามารถเขียนลงบนจอภาพได้ กล้องดิจิทัลเพื่อถ่ายภาพและเว็บแค็ม (Webcam) เพื่อใช้ส่งภาพขณะสนทนาทางอินเตอร์เน็ต ฯลฯ เมื่อเรียนรู้ถึงความใหม่ทันสมัยของเทคโนโลยีแล้วจำนำมาประยุกต์ใช้ในวงการต่าง ๆ ได้อย่างไรบ้าง เช่น การใช้กล้องวีดิทัศน์ถ่าพภาพการสอนส่งไปบนอินเตอร์เน็ตเพื่อให้ผู้เรียนในสถาบันการศึกษาอื่นเห็นภาพและได้ยินเสียงการสอน การใช้เครือข่ายไร้สายด้วยเทคโนโลยี WI FI ทั้งในและนอกห้องเรียน
ประเทศไทยมุ่งเน้นในการนำไอซีทีมาใช้ในการเรียนการสอน วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสังคมไทยไปสู่สังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้ที่สนองต่อคุณภาพชีวิตโดยตรง เทคโนโลยีการเรียนรู้จะช่วยปรับปรุงคุณภาพการศึกษาของเด็กในศตวรรษที่ 21 โดยมี เป้าหมายหลักเพื่อช่วยเปลี่ยนสังคมไทยไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ การประกันโอกาสของผู้เรียนในการเข้าถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต และเชื่อมโยงสังคมไทยเข้ากับสังคมเศรษฐกิจบนพื้นฐานของความรู้
ตามแผนแม่บทของการศึกษาแห่งชาติ และการกำหนดนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการเพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปการศึกษา โดยการใช้ไอซีทีในสถาบันการศึกษาทั้งหมดและมีให้ผู้เรียนทุกคนมีโอกาสใช้ไอซีทีเพื่อการเรียนตามประสิทธิภาพที่พอเพียงอย่างทั่วถึง โดยมีวิสัยทัศน์และจุดมุ่งหมายสำคัญ สรุปได้ดังนี้
ผู้เรียน
ผู้เรียนสามารถใช้ไอซีทีเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยมีจุดมุ่งหมายคือ
1. การรู้เทคโนโลยีและการรู้สารสนเทศ ในระดับพื้นฐานเพื่อสามารถเข้าถึงและสามารถใช้ไอซีทีเพื่อการค้นคว้า รวบรวม และประมวลผลจากแหล่งต่าง ๆ และเพื่อเการสร้างองค์ความรู้ใหม่
2. บูรณาการความรู้ด้านเทคโนโลยีและทักษะการจัดการสารสนเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการทำงานเป็นทีม
3. กระตุ้นให้ผู้เรียนพัฒนาคุณค่า ทัศนคติ และจริยธรรมในเชิงบวกในการใช้ไอซีทีซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเรียนรู้ตลอดชีวิตและกระบวนการคิดอย่างวิเคราะห์
4. ผู้เรียนทุกคนมีโอกาสเข้าถึง ใช้ และเรียนรู้ทักษะไอซีทีในการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยหลักสูตรพื้นฐาน
5. ต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนมีโอกาสในการใช้และพัฒนาความรู้ไอซีทีในทุกสาขาวิชา และเพิ่มโอกาสให้ผู้เรียนมีการใช้ไอซีทีให้มากขึ้น
6. กระบวนการเรียนการสอนต้องไม่จัดเฉพาะในชั้นเรียนเท่านั้น ผู้เรียนควรมีโอกาสสัมผัสโลกภายนอกผ่านเครือข่ายไอซีที การรู้ไอซีที และมีการพัฒนาการของทัศนคติที่ดีต่อไอซีทีตามความต้องการของแต่ละคน
7. นักเรียนทุกคนที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และปีที่ 6 สามารถใช้โปรแกรมประมวลคำและตารางการคำนวณได้ นักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 สามารถเขียนโปรแกรมได้
8. นักเรียนทุกคนในโรงเรียนที่มีนักเรียนตั้งแต่ 1-100 คนขึ้นไป ใช้อินเทอร์เน็ตในการสืบค้นข้อมูลได้
ผู้สอน
ผู้สอนควรมีความรู้และทักษะไอซีทีในระดับสูง รวมถึงความเข้าใจในการพัฒนาการของการใช้สื่อเทคโนโลยีในการเรียนการสอน โดยมีจุดมุ่งหมายดังนี้
1. สมรรถนะด้านไอซีทีจะช่วยให้ผู้สอนมีความรู้อย่างกว้างขวาง มีวิสัยทัศน์ก้าวไกลเพื่อสามารถเป็นผู้แนะนำแกผู้เรียนได้
2. คอมพิวเตอร์จะเป็นเครื่องมือหลักสำคัญสำหรับผู้สอนเพื่อเข้าถึงทรัพยากรการเรียนการเตรียมแผนการสอน ให้การบ้าน และติดต่อสื่อสารกับผู้ปกครองนักเรียน ผู้สอนคนอื่นๆและผู้บริหาร
3. ผู้สอนควรได้รับการอบรมในการใช้ไอซีทีและสามารถบูรณาการไอซีทีในกิจกรรมการเรียนการสอนได้เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างวิเคราะห์และสร้างสรรค์
4. ผู้สอนควรติดตามพัฒนาการและความก้าวหน้าของไอซีทีเพื่อนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการเรียนการสอนได้
5. ครูไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ใช้คอมพิวเตอร์เป็น และไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ และต้องมีวิชาสอนด้วยการบูรณาการไอซีที
รูปแบบการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการเรียนการสอน
1. การเรียนการสอนบนอินเทอร์เน็ตและเวิลด์ไวด์เว็บ
2. การส่งการสอนทางไกลด้วยการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียม
3. การเรียนการสอนโดยการประชุมทางไกลด้วยวีดิทัศน์
4. บทเรียนลักษณะข้อความหลายมิติและสื่อหลายมิติ
5. บันทึกข้อมูลและสารสนเทศด้วยซีดีและดีวีดี
6. การเรียนการสอนด้วยเทคโนโลยีไร้สาย
7. การศึกษาเชิงลึกด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน
การใช้ไอซีทีเพื่อการปฏิรูปการเรียนรู้
1. รูปแบบการใช้ ICT ในการเรียนการสอนเด็กและเยาวชนเห็นว่า เนื่องจากปัจจุบันมีกาปฏิรูปการเรียนการสอนแบบผู้เรียนสำคัญที่สุด ดังนั้น สื่อการสอนรวมทั้งสื่อ ICT เช่นโปรแกรมช่วยสอนบทเรียนสำเร็จรูป ฯลฯ ควรเข้ามามีบทบาทช่วยสอนมากขึ้น เพื่อช่วยให้นักเรียนได้ฝึกคิด ปฏิบัติจริง และทำให้เข้าใจในการเรียนอย่างแท้จริง
2. ห้องเรียน ICT ที่ต้องการ ต้องมีวัสดุอุปกรณ์ครบครันและทันสมัย เป็นห้องเรียนแบบ E- learning และ E - library เป็นแหล่งเรียนรู้ที่นักเรียนทุกคนสามารถใช้ได้ นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างความบันเทิง คลายเครียด ฝึกความจำ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยผ่านเกมต่างๆ
3. บทบาทครูผู้สอน ICT เด็กและเยาวชนเห็นว่า ครู ICT ต้องเปลี่ยนบทบาทจากผู้สอนมาเป็นผู้แนะนำ ผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูล โดยแนะนำการใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสอดส่องดูแลไม่ให้ผู้เรียนใช้ในทางที่ผิด เช่น chat เวลาเรียน เปิด website ที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ครูต้องทันโลก ทันเหตุการณ์ ใจกว้างยอมรับฟังความคิดเห็นจากผู้เรียนและบุคคลอื่นโดยไม่ยึดติดความคิดของตนเอง มีกระบวนการสร้างทักษะการเรียนการสอนและรู้จักบูรณาการเทคโนโลยีกับความเป็นธรรมชาติ บูรณาการการสอนความรู้ด้านคุณธรรม ศีลธรรมให้นักเรียนควบคู่กับการเรียนการสอน ICT และที่ขาดไม่ได้คือ ครูต้องมีคุณธรรม จริยธรรมและมีจรรยาบรรณในวิชาชีพครูด้วย
4. ผลกระทบจากการใช้ICTในการเรียนการสอน
ข้อดี ผู้เรียนได้พัฒนาและเรียนรู้ได้ดี สามารถเรียนด้วยตนเอง ใช้สะดวก รวดเร็วกระตุ้นความสนใจและได้ฝึกปฏิบัติจริง
ข้อเสีย เด็กและเยาวชนไทยอาจถูกครอบงำจากสื่อที่ไม่เหมาะสม ใช้สื่อในทางที่ผิดสูญเสียความเป็นตนเอง ขาดความสัมพันธ์ทางด้านสังคมและจิตใจ ขาดมนุษย์สัมพันธ์ระหว่างเพื่อน การเรียนผ่านระบบเครือข่ายเป็นการเรียนแบบจำลองสถานการณ์ ทำให้ผู้เรียนไม่สามารถรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของผู้อื่นได้ นอกจากนี้เด็กและเยาวชนสมัยใหม่ใช้ชีวิตสบายเกินไปทำให้ลืมวิถีชีวิตสมัยก่อน และการใช้ ICT ในการเรียนการสอนต้องลงทุนสูง
5. การใช้ ICT เท่าที่เป็นอยู่ขาดอุปกรณ์ที่จำเป็นได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ไม่เพียงพอ นักเรียนขาดทักษะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบการติดต่อสื่อสารเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไม่ดีพอ มีเวลาเรียนน้อยและขาดครูผู้สอนที่มีความรู้ด้านนี้โดยตรง
6. พ่อแม่ ผู้ปกครอง ส่งเสริมการใช้ ICT เพื่อการเรียนรู้ โดยการเปิดโอกาสให้ลูกได้ใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการศึกษามากกว่าความบันเทิง โดยพ่อแม่ ผู้ปกครองต้องคอยดูแล ให้คำปรึกษาแนะนำอย่างใกล้ชิด จัดหาสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบ ICT รวมทั้งควรส่งเสริมและสนับสนุนให้บุตรหลานเข้าร่วมแข่งขันหรืออบรมเรื่องใช้ ICT เพื่อการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้
7. เด็กและเยาวชนต้องการให้มีการใช้ ICT เพื่อการเรียนการสอนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกันทุกโรง มีวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับการใช้ ICT ทันสมัยและเพียงพอ มีการส่งเสริมการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้มากขึ้น นอกจากนี้ อยากให้มีหน่วยเคลื่อนที่ "ไอซีทีเพื่อการเรียนรู้" ที่ออกให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชน พ่อแม่ ผู้ปกครอง และชุมชนทั่วประเทศ และส่งเสริมให้มีแหล่งเรียนรู้ด้านไอซีทีเพื่อการเรียนรู้ทุกภูมิภาค
กล่าวโดยสรุป จากการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี ปรัชญา ด้านเทคโนโลยีการศึกษา ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงตัวของมันเองร่วมกับปัจจัยด้านต่าง ๆ ในด้านขอบข่ายสาระของแนวคิด และกระบวนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา จากโสตทัศนศึกษา มาเป็นเทคโนโลยีการศึกษาครอบคลุม การจัดระบบ ทฤษฎีต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อศาสตร์ และสื่อต่าง ๆ เกิดเป็นสหวิทยาการที่มีขอบข่ายกว้างขวาง ครอบคลุมการศึกษาทุกแบบ การศึกษาด้วยตนเอง การศึกษาทางไกล การเรียนรู้ตลอดชีวิต การศึกษากับชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศ การเรียนรู้ผ่านเครือข่ายและสื่อสมัยใหม่ มุ่งสร้างองค์ความรู้แก่ผู้เรียน โดยเปลี่ยนจาก Teacher Center เป็น Child Center และมีแนวโน้มจะเป็น Media Center
ที่มา:
pirun.ku.ac.th/~g4786022/page/Paper/Factor.doc
pirun.ku.ac.th/~g4786022/page/Paper/Interested.doc
http://inno.obec.go.th/project/ict/html/innovation.html
http://www.moe.go.th/webpdit/proj_2550/itplan.htm
1. รูปแบบการใช้ ICT ในการเรียนการสอนเด็กและเยาวชนเห็นว่า เนื่องจากปัจจุบันมีกาปฏิรูปการเรียนการสอนแบบผู้เรียนสำคัญที่สุด ดังนั้น สื่อการสอนรวมทั้งสื่อ ICT เช่นโปรแกรมช่วยสอนบทเรียนสำเร็จรูป ฯลฯ ควรเข้ามามีบทบาทช่วยสอนมากขึ้น เพื่อช่วยให้นักเรียนได้ฝึกคิด ปฏิบัติจริง และทำให้เข้าใจในการเรียนอย่างแท้จริง
2. ห้องเรียน ICT ที่ต้องการ ต้องมีวัสดุอุปกรณ์ครบครันและทันสมัย เป็นห้องเรียนแบบ E- learning และ E - library เป็นแหล่งเรียนรู้ที่นักเรียนทุกคนสามารถใช้ได้ นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างความบันเทิง คลายเครียด ฝึกความจำ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยผ่านเกมต่างๆ
3. บทบาทครูผู้สอน ICT เด็กและเยาวชนเห็นว่า ครู ICT ต้องเปลี่ยนบทบาทจากผู้สอนมาเป็นผู้แนะนำ ผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูล โดยแนะนำการใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสอดส่องดูแลไม่ให้ผู้เรียนใช้ในทางที่ผิด เช่น chat เวลาเรียน เปิด website ที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ครูต้องทันโลก ทันเหตุการณ์ ใจกว้างยอมรับฟังความคิดเห็นจากผู้เรียนและบุคคลอื่นโดยไม่ยึดติดความคิดของตนเอง มีกระบวนการสร้างทักษะการเรียนการสอนและรู้จักบูรณาการเทคโนโลยีกับความเป็นธรรมชาติ บูรณาการการสอนความรู้ด้านคุณธรรม ศีลธรรมให้นักเรียนควบคู่กับการเรียนการสอน ICT และที่ขาดไม่ได้คือ ครูต้องมีคุณธรรม จริยธรรมและมีจรรยาบรรณในวิชาชีพครูด้วย
4. ผลกระทบจากการใช้ICTในการเรียนการสอน
ข้อดี ผู้เรียนได้พัฒนาและเรียนรู้ได้ดี สามารถเรียนด้วยตนเอง ใช้สะดวก รวดเร็วกระตุ้นความสนใจและได้ฝึกปฏิบัติจริง
ข้อเสีย เด็กและเยาวชนไทยอาจถูกครอบงำจากสื่อที่ไม่เหมาะสม ใช้สื่อในทางที่ผิดสูญเสียความเป็นตนเอง ขาดความสัมพันธ์ทางด้านสังคมและจิตใจ ขาดมนุษย์สัมพันธ์ระหว่างเพื่อน การเรียนผ่านระบบเครือข่ายเป็นการเรียนแบบจำลองสถานการณ์ ทำให้ผู้เรียนไม่สามารถรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของผู้อื่นได้ นอกจากนี้เด็กและเยาวชนสมัยใหม่ใช้ชีวิตสบายเกินไปทำให้ลืมวิถีชีวิตสมัยก่อน และการใช้ ICT ในการเรียนการสอนต้องลงทุนสูง
5. การใช้ ICT เท่าที่เป็นอยู่ขาดอุปกรณ์ที่จำเป็นได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ไม่เพียงพอ นักเรียนขาดทักษะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบการติดต่อสื่อสารเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไม่ดีพอ มีเวลาเรียนน้อยและขาดครูผู้สอนที่มีความรู้ด้านนี้โดยตรง
6. พ่อแม่ ผู้ปกครอง ส่งเสริมการใช้ ICT เพื่อการเรียนรู้ โดยการเปิดโอกาสให้ลูกได้ใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการศึกษามากกว่าความบันเทิง โดยพ่อแม่ ผู้ปกครองต้องคอยดูแล ให้คำปรึกษาแนะนำอย่างใกล้ชิด จัดหาสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบ ICT รวมทั้งควรส่งเสริมและสนับสนุนให้บุตรหลานเข้าร่วมแข่งขันหรืออบรมเรื่องใช้ ICT เพื่อการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้
7. เด็กและเยาวชนต้องการให้มีการใช้ ICT เพื่อการเรียนการสอนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกันทุกโรง มีวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับการใช้ ICT ทันสมัยและเพียงพอ มีการส่งเสริมการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้มากขึ้น นอกจากนี้ อยากให้มีหน่วยเคลื่อนที่ "ไอซีทีเพื่อการเรียนรู้" ที่ออกให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชน พ่อแม่ ผู้ปกครอง และชุมชนทั่วประเทศ และส่งเสริมให้มีแหล่งเรียนรู้ด้านไอซีทีเพื่อการเรียนรู้ทุกภูมิภาค
กล่าวโดยสรุป จากการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี ปรัชญา ด้านเทคโนโลยีการศึกษา ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงตัวของมันเองร่วมกับปัจจัยด้านต่าง ๆ ในด้านขอบข่ายสาระของแนวคิด และกระบวนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา จากโสตทัศนศึกษา มาเป็นเทคโนโลยีการศึกษาครอบคลุม การจัดระบบ ทฤษฎีต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อศาสตร์ และสื่อต่าง ๆ เกิดเป็นสหวิทยาการที่มีขอบข่ายกว้างขวาง ครอบคลุมการศึกษาทุกแบบ การศึกษาด้วยตนเอง การศึกษาทางไกล การเรียนรู้ตลอดชีวิต การศึกษากับชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศ การเรียนรู้ผ่านเครือข่ายและสื่อสมัยใหม่ มุ่งสร้างองค์ความรู้แก่ผู้เรียน โดยเปลี่ยนจาก Teacher Center เป็น Child Center และมีแนวโน้มจะเป็น Media Center
ที่มา:
pirun.ku.ac.th/~g4786022/page/Paper/Factor.doc
pirun.ku.ac.th/~g4786022/page/Paper/Interested.doc
http://inno.obec.go.th/project/ict/html/innovation.html
http://www.moe.go.th/webpdit/proj_2550/itplan.htm
วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)